ช่วงเย็นวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผกก.สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พร้อมพ.ต.ท.ธนภัทร เพชรอรุณ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วิริยะ อ่ำเมือง สว.สส. นำกำลัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจำนวนหนึ่งกระจาย กำลังปิดล้อมบ้านเลขที่ 133 หมู่ที่ 16 บ้านใหม่หัวสะพาน ต.ทุ่งอรุณ
เนื่องจากสืบทราบว่า นายณัฐวัฒน์ แสงเพิ่ม อายุ 44 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 190 ถนนเปรมใจราษฎร์ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี นักค้าอาวุธปืนให้แก๊งค้ายาบ้า และมีหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี กบดานอยู่ที่บ้านหลัง ดังกล่าวซึ่งเป็นของภรรยา
นอกจากนั้นยังทราบจากสายสืบว่า นายณัฐวัฒน์ยังซุกซ่อนอาวุธปืนไว้ในบ้านหลังดังกล่าวด้วยจำนวนหนึ่ง จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดนครราชสีมา
ทันทีที่นักค้าอาวุธตัวแสบเห็นเจ้าหน้าที่ ก็วิ่งหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำภายใน บ้าน โดยทิ้งนางสาริศา คุ้มกระโทก อายุ 46 ปี ภรรยาให้รับหน้ากับตำรวจเพียงลำพัง
เจ้าหน้าที่จึงต้องพึ่งนางสาริศาเข้าไปเกลี้ยกล่อมสามีให้ยอมมอบตัวแต่โดยดี เนื่องจากเจ้าหน้าที่ปิดล้อมทางหนีไว้แล้วทุกทิศทาง
ซึ่งนางสาริศาก็ยอมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
แต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้จบลงด้วยสันติวิธีอย่างที่ตำรวจตั้งความหวังไว้
เพราะแทนที่จะยอมมอบตัว นาย ณัฐวัฒน์กลับจับเมียรักไว้เป็นโล่กำบัง ตัวเองไว้จากกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ แล้วตัวเองอยู่ข้างหลัง จากนั้นบังคับ ให้นางสาริศาเดินเผชิญหน้ากับผู้รักษากฎหมาย
เมื่อนางสาริศาเปิดประตูหน้าบ้าน นายณัฐวัฒน์ก็สอดปลายกระบอกปืนเอ็ม 16 ออกมาจากข้างตัวภรรยา ก่อนรัวยิงเป็นชุดใหญ่หวังเปิดทางหนี
หลังสิ้นเสียงปืน ด.ต.เชี่ยวชาญ ฉิมณรงค์ อายุ 48 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.โชคชัย ก็ล้มฟุบลงกับพื้น เพราะถูกยิงเข้าหัวไหล่และต้นแขนซ้าย
ฝั่งเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องอาศัยความแม่นยำราวกับจับวางยิงสวนกลับไป 1 นัด
คมกระสุนผ่านตัวนางสาริศาไปอย่างไร้รอยขีดข่วน เจาะเข้าร่างนายณัฐวัฒน์อย่างถนัดถนี่
แต่นักค้าอาวุธยังไม่ยอมจำนน ลากตัวเมียรักกลับเข้าไปปักหลักในห้องน้ำอีกครั้ง ก่อนจะประกาศขอสู้ตาย เจ้าหน้าที่ต้องเรียกกำลังมาเสริม และปิดล้อมอยู่อีกพักใหญ่
กระทั่งนางสาริศาเดินถือปืนเอ็ม 16 ออกมามอบให้เจ้าหน้าที่ด้วยใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตา และยังเสียขวัญจากเหตุระทึกที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ
เมื่อตำรวจที่เหลือกรูกันเข้าไปภายในบ้าน ก็พบร่างนายณัฐวัฒน์นอนหายใจรวยรินอยู่กับพื้นห้องน้ำ มีบาดแผลถูกยิงเข้าราวนมซ้ายทะลุหลัง จึงรีบช่วยกันปฐมพยาบาลในเบื้องต้นแล้วรีบส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลโชคชัย
แต่ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นลมไปในที่สุด
พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เดินทางมาร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ จากการตรวจค้นภายในบ้านพบ อาวุธปืน พร้อมเครื่องกระสุนหลายรายการ
ประกอบด้วย กระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 1,100 นัด กระสุนปืนลูกซอง 265 นัด ปืนสั้นบีบีกัน ดัดแปลงเป็นปืนที่สามารถยิงกระสุนจริง 10 กระบอก ปืนยาวบีบีกัน ดัดแปลงสามารถยิงกระสุน จริง 1 กระบอก และปืนเอ็ม 16 ของจริงที่ใช้ก่อเหตุอีก 1 กระบอก
นางสาริศาให้การว่า อยู่กินฉันสามีภรรยากับนายณัฐวัฒน์มาได้เกือบ 2 ปีแล้ว โดยสามีประกอบอาชีพขับรถรับจ้าง และมักชอบสะสมปืนบีบีกัน ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยสอบถามและเตือนให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับอาวุธปืน เพราะกลัวถูกตำรวจจับ แต่ไม่เป็นผลจนเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน จนต้องเลิกยุ่งเรื่องส่วนตัวของสามี
กระทั่งช่วงปลายปีที่ผ่านมา นายณัฐวัฒน์เริ่มมีการซื้ออาวุธปืนมาสะสม อ้างว่าจะนำมาเก็บไว้ใช้ยิงนก รวมทั้งมีคนส่งอาวุธ ปืนมาให้ซ่อมและดัดแปลง โดยส่งทางไปรษณีย์บ่อยครั้ง จนมาถูกตำรวจเข้าจับกุม และยิงต่อสู้กัน จนเสียชีวิตดังกล่าว
พล.ต.ต.ฐากูรเผยว่า นายณัฐวัฒน์มีพฤติกรรมและเชี่ยวชาญด้านการดัดแปลงอาวุธปืน จากปืนบีบีกันให้เป็นอาวุธที่ใช้งานได้จริง และยังรับซ่อมแซมอาวุธปืน รวมถึงขายอาวุธปืนให้กับหลายกลุ่ม ทั้งเยาวชนและผู้ค้ายาเสพติด โดยอาศัยโซเชี่ยลมีเดียเป็นช่องทางการติดต่อ
เจ้าหน้าที่ทราบความเคลื่อนไหวของนักค้าอาวุธรายนี้มาโดย ตลอด แต่ยังไม่มีโอกาสจับกุม เนื่องจากนายณัฐวัฒน์จะไหวตัว ทันทุกครั้ง
กระทั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.โชคชัยทราบว่า นายณัฐวัฒน์ กลับมากบดานที่บ้านหลังเกิดเหตุ จึงนำกำลังเข้าจับกุม กระทั่งเกิดปะทะกันจนด.ต.เชี่ยวชาญได้รับบาดเจ็บ และนายณัฐวัฒน์ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมในที่สุด
ต้องปิดฉากชีวิตไปก่อนวัยอันควร เพราะเลือกที่จะเดินในเส้นทางโจร