Home » » เอาละสิ!! คดีมะพร้าว 3 ลูกอาจพลิก เมื่อได้เห็นรูปนี้ ป้าโชว์หลักฐานเด็ด เห็นแล้วเข้าใจป้าทันที!???

เอาละสิ!! คดีมะพร้าว 3 ลูกอาจพลิก เมื่อได้เห็นรูปนี้ ป้าโชว์หลักฐานเด็ด เห็นแล้วเข้าใจป้าทันที!???


จาก กรณี นางอารีย์ (สงวนนามสกุล) บ้านอยู่หมู่ 5 ต.นาโพธิ์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แจ้งตำรวจจับกุม นายนฤเบศ เพชรชุมพล อายุ 25 ปี ดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ หลังจากได้ขโมยมะพร้าวไป 3 ลูก เพื่อนำไปให้ภรรยาซึ่งตั้งท้องได้ 5 เดือนกิน และหากจะให้ยอมความไม่ดำเนินคดีต้องจ่ายเงินให้ 5 หมื่นบาท ซึ่งนายนฤเบศมีฐานะยากจน ไม่สามารถที่จะหาเงินมาจ่ายให้ได้และยอมติดคุก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น


คืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 มี.ค. ร.ต.ท.สัญญา กล่อมสุข พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของคดีนี้ได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยมี นางอารีย์ ชี้จุดเกิดเหตุที่ นายนฤเบศ ผู้ต้องหาลอบเข้ามาขโมยลูกมะพร้าว ซึ่งเป็นของกลางที่ยึดได้ โดยมีนายวินัย ชูบัวทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.นาโพธิ์ และ ร.ต.ท.เสถียร หนูชัยแก้ว รอง สวป.สภ.ทุ่งสง ซึ่งเป็นหัวหน้าป้อมยาม บริการประชาชน ต.นาโพธิ์ รวมทั้งชาวบ้านส่วนหนึ่งมาให้กำลังใจ นางอารีย์หลังถูกสังคมออนไลน์โจมตีอย่างหนัก

ภายหลังชี้จุดเกิดเหตุ เสร็จ นางอารีย์ กล่าวว่า ตามที่ข่าวเสนอไปนั้น ยังคลาดเคลื่อนกับข้อเท็จจริง เพราะผู้ต้องหานั้น เมื่อถูกจับได้อ้างว่าเมียอยากกินน้ำมะพร้าว จึงได้ไปขโมยมา แต่แท้จริงแล้ว นายนฤเบศขโมยมะพร้าวมานับสิบครั้งแล้ว และเอามะพร้าวใส่กระสอบไปขาย โดยมีอยู่ครั้งหนึ่ง เมียของนายนฤเบศยังไปร่วมขโมยด้วย แม้แต่หมาก ยังถูกนายนฤเบศขโมยไปขายจนหมดทั้งต้นมาแล้ว พร้อมกันนี้อยากจะขอร้องโลกโซเชี่ยล อย่าเขียนโจมตีด่าตนเลย เพราะได้รับความเสียหาย จากการกระทำของคนผิด ซึ่งตนเป็นเจ้าทุกข์ที่ถูกกระทำ แต่กลับกลายเป็นว่า ตนเป็นฝ่ายผิดจึงอยากให้สังคมช่วยให้ความเป็นธรรมด้วย

ด้าน นายวินัย กล่าวว่า นายนฤเบศผู้ต้องหานั้น ติดยาเสพติดและชอบก่อปัญหาให้กับคนในหมู่บ้านมาโดยตลอด ซึ่งในวันที่ นายนฤเบศมาขโมยมะพร้าวนั้นภรรยาท้อง 5 เดือนก็ได้มากับสามีด้วย และเป็นผู้ถือพัดลมที่ขโมยมาด้วย โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ ขณะถือพัดลมอยู่ได้ด้วย และเมื่อตำรวจจับกุม นายนฤเบศไปที่โรงพักทุ่งสง ซึ่งนางอารีย์ไม่เอาเรื่องภรรยา ทั้งๆ ที่ไปด้วยในวันที่ก่อเหตุ เพราะนางอารีย์เห็นว่ากำลังท้องอยู่ แถมนางอารีย์ยังให้เงิน 100 บาทไปกินข้าวอีก จึงให้ตำรวจดำเนินคดีเฉพาะ นายนฤเบศผู้เป็นสามีเพียงคนเดียว

ส่วน ร.ต.ท.เสถียร กล่าวว่า สำหรับ นายนฤเบศนั้น ก่อนหน้าได้มีการรวมทีมในหมู่เครือญาติ 3-4 คน พากันมั่วสุมเสพยาเสพติด และพากันออกตระเวนขโมยสิ่งของชาวบ้าน จนเป็นที่เดือดร้อน ต่อมาตนเองพร้อมกับลูกน้อง และชาวบ้านได้เฝ้าระวังและกดดัน จนกระทั่งต้องพากันแยกย้ายกันไปอยู่คนละแห่ง ซึ่งก็ยังไม่ไว้วางใจ ต้องคอยระวังอยู่กันตลอดเวลา แต่เมื่อนายนฤเบศถูกตำรวจจับกุม คาดว่าเหตุการณ์เรื่องสิ่งของชาวบ้านที่ถูกขโมยคงจะลดน้อยลง

ต่อมาผู้ สื่อข่าวเดินทางไปพบ นางจันจิรา รักการ ภรรยาของนายนฤเบศที่บ้านเช่า ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวไม่มีเลขที่ จากการสอบถามถึงเรื่องขโมยมะพร้าวในวันเกิดเหตุ นางจันจิรารับว่า ตนเองได้ไปด้วยและสามีได้ขโมยมะพร้าวมาแค่ 3 ลูกเท่านั้น ส่วนพัดลมที่เอามานั้น สามีเห็นว่าเสียชำรุดแล้ว จึงได้เอาติดมือมาด้วย เผื่อว่าจะซ่อมแซมได้ โดยคิดไม่ถึงว่านางอารีย์เจ้าทรัพย์จะเอาเรื่อง

ขณะ ที่นายธีรศักดิ์ วิชชุตานนท์ ทนายความและกรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ตอนแรกที่เห็นข่าวก็คิดว่า ราคาแพงเกินไปหรือไม่ สำหรับมะพร้าว 3 ลูกเรียกเงิน 5 หมื่นบาท แต่พอไปดูข่าวและประวัติของผู้ต้องหาแล้ว ถึงได้เข้าใจว่า ผู้เสียหายไม่ต้องการที่จะเรียกร้องเอาเงิน แต่ต้องการให้ผู้ที่ขโมยได้เข็ดหลาบ อีกทั้งเขาเคยกระทำความผิดมาก่อน โดยขโมยนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งผักและผลไม้ พร้อมทั้งเพิ่งพ้นโทษเสพยาเสพติดมาไม่นาน


"ได้ยินมาว่าป้าผู้เสียหาย จะฟ้องร้อง ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เพราะทำให้ป้าเกิดความเสียหาย ดังนั้นจึงอยากจะเตือนผู้ที่ใช้สื่อทางโซเซียล ให้ระมัดระวังในการเสพข่าว ถ้าไม่แน่ใจอย่าได้ส่งต่อ เพราะนอกจากจะทำให้คนนั้นเกิดความเสียหายแล้ว ผู้ส่งอาจจะมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ด้วย และการเสพข่าวใดๆ ขอให้ฟังข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่าย ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์ว่าฝ่ายใดไม่ดี" นายธีรศักดิ์ กล่าว..