ชื่นชม…น่าสงสาร “หนุ่มพิการไม่ย่อท้อสู้ชีวิต” รับจ้างเดินสะพายตะกร้าหวายขาย หาเงินเลี้ยงดูยายวัย 80 ปี เพราะไม่อยากเป็นภาระของสังคม!
ชื่นชม…”หนุ่มพิการแขนซ้ายไม่ท้อขอสู้ชีวิต” หารายได้เสริมช่วงหน้าแล้ง เลี้ยงดูยายวัย 80 ปี รับจ้างเดินสะพายตะกร้าหวายขาย ภายในปั๊มน้ำมันเมืองอุดรฯ หลังนายจ้างไปรับซื้อมาจากกลุ่มแม่บ้านใน ต.โขงเจียม ได้วันละกว่า 300 บาท …
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบริเวณหน้าร้าน “วุ้นคุณอร” ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านเก่าน้อย ถ.มิตรภาพอุดร-หนองคาย ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี หลังได้รับแจ้งว่า มีผู้ชายร่างกายพิการแขนลีบ ข้อมือพับ เดินสะพายตะกร้าหวายขายให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาภายในปั๊มน้ำมัน อย่างไม่ย่อท้อต่อชีวิตและโชคชะตาแม้แต่น้อยนิด ทราบชื่อคือ นายโสภา ผิวเงิน อายุ 45 ปี ชาว ต.คำครั่ง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี
นายโสภา เล่าให้ฟังว่า ไม่เคยแต่งงานมีภรรยา และเรียนจบแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เนื่องจากพิการแขนซ้ายตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จากการฉีดยาของหมอประจำหมู่บ้าน หรือ “หมอเถื่อน” เพื่อรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งฉีดยาเข้าที่หัวไหล่ด้านซ้าย จากนั้นแขนด้านซ้ายก็หมดเรี่ยวแรงใช้การไม่ได้ตามปกติ หนักเข้าจนไม่มีความรู้สึก นับตั้งแต่นั้นมาก็ได้รับเบี้ยยังชีพคนพิการเป็นเงิน 800 บาทต่อเดือน ส่วนครอบครัวมีพี่น้อง 4 คน ตนเป็นคนสุดท้อง พี่สาวและพี่ชายแต่งงานออกบ้านไปหมดหลังจากพ่อแม่เสียชีวิตราว 5 ปี ที่ผ่านมาอาศัยอยู่กับยาย อายุราว 80 ปี ตามลำพัง 2 คน แต่พี่ชายและพี่สาวก็ส่งเงินมาจุนเจือบ้างในบางครั้ง รวมถึงญาติมาคอยดูแลยาย ให้ความช่วยเหลือเป็นบางครั้ง แม่กับพ่อทิ้งมรดกให้ตนเป็นที่นาราว 20 ไร่ สวนยาง 4 ไร่ ซึ่งตนก็ไม่สามารถทำได้ จึงให้ญาติเช่าทำ โดยทุกปีช่วงเดือน มี.ค. ถึงปลายเดือน เม.ย. ตนจะต้องออกจากบ้านมาพร้อมกับพวกเพื่อนๆ ทั้งหมดเป็นผู้ชายรวม 11 คน มีเพียงตนคนเดียวที่ร่างกายพิการ เพื่อรับจ้างเดินสะพายตะกร้าหวายขาย โดยนายจ้างไปรับซื้อมาจากกลุ่มแม่บ้านใน ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เนื่องจากเป็นช่วงหน้าแล้งไม่สามารถทำนาได้ และต้นยางก็ผลัดใบ จึงไม่มีรายได้จากการประกอบอาชีพเกษตรกร และปีนี้ส่อไปในทางที่แล้งหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา จึงพากันมาหารายได้เสริมด้วยอาชีพที่สุจริต…
ส่วนค่าเหนื่อยของตนจะได้ค่าตอบแทนจากการขายตะกร้าหวายใบละ 10 บาท รายได้ตกวันละ 280-300 บาท ถือว่านายจ้างเราไม่เอาเปรียบเลย แถมยังเลี้ยงข้าว 2 มื้อ มื้อเช้ากับมื้อเย็น ส่วนมื้อเที่ยงตนจะไม่กินประหยัดอดออม เพื่อเก็บเงินก้อนไปให้ยาย ไว้ใช้สอยซื้อสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิต ซึ่งตนจะมีเงินให้ยายครั้งละ 4,000-5,000 บาท บางครั้งมีคนผ่านไปมาคงสงสารตน และหยิบยื่นเงินให้ตนครั้งละ 20 บาทบ้าง 100 บาทบ้าง เราไม่รับก็ไม่ได้ เพราะเขาเต็มใจให้ด้วยความสงสารเรา และเราก็ไม่ได้มานั่งขอทานให้เป็นปัญหาของสังคม…
ด้าน นางสาวหัสยา เมืองสอง อายุ 24 ปี แม่ค้าร้านวุ้นคุณอร ภายในปั๊มน้ำมัน เปิดเผยว่า เห็นนายโสภาลงจากรถกระบะของนายจ้าง สะพายตะกร้าเดินลงมานั่งที่ม้านั่งหน้าร้าน และพ่อค้าไส้กรอกอีสานซึ่งอยู่ติดกัน คงสงสารเดินเอาไส้กรอกและข้าวเหนียวมาให้กิน เมื่อทราบถึงเรื่องราวชีวิตความเป็นมาของ นายโสภา รู้สึกมีกำลังใจที่จะต่อสู้ชีวิต เนื่องจากเขาพิการแขนลีบและข้อมือพับ แต่เขาก็ไม่ย่อท้อต่อสู้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบเหมือนคนทั่วไป ไม่งอมืองอเท้าขอความช่วยเหลือจากใคร แตกต่างกับขอทานบางรายที่ขายังเดินได้ แต่ไม่ยอมทำงานต่อสู้ชีวิตที่เขาพอจะทำได้…
ที่มา : สำนักข่าวไทย