Home » » สะเทือนใจ !! พ่อสวมกอดลูกสาวครั้งสุดท้าย ก่อนที่ต้องไปติดคุก สะเทือนใจเป็นที่สุด!?

สะเทือนใจ !! พ่อสวมกอดลูกสาวครั้งสุดท้าย ก่อนที่ต้องไปติดคุก สะเทือนใจเป็นที่สุด!?


โผสวมกอดลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย!ตร.คุมเข้ม หนุ่มใหญ่ ผู้ต้องหาฆ่าเมียเผาศพอำพรางในบ่อขยะทำแผนฯ เผยยินดีชดใช้กรรม ด้านญาติผู้หญิงให้อภัยพร้อมดูแลหลานให้


เมื่อ วันที่ 7 มี.ค. พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมือง อุดรธานี พ.ต.อ.บรรจบ สีหานาวี พงส.ผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สนั่นชัย มอไธสง พงส.ชำนาญการ สภ.เมืองอุดรธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย ร่วมกันคุมตัวนายปรีชา มงคล อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่น ซ่อนเร้น หรือทำลายศพ เพื่อปิดปังการเกิดการตายหรือสาเหตุการตาย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากฆ่าภรรยาตัวเองคือ น.ส.สุชาดา ลุนชัยภา อายุ 23 ปี แล้วนำศพไปเผาอำพรางคดีที่บ่อทิ้งขยะ สาเหตุมาจากเรื่องหึงหวงโดยเริ่มจากชี้จุดในห้องนอน ที่ผู้ต้องหานำเอาไม้ฟาดภรรยาจนถึงแก่ชีวิต ก่อนใช้กางเกงยีนของภรรยาในตู้เสื้อผ้ามาพันศีรษะเพื่อไม่ให้เลือดออก จากนั้นก็ห่อศพด้วยผ้าปูที่นอน ลากศพขึ้นสามล้อเครื่องที่จอดอยู่หน้าบ้านเอาศพไปเผาทิ้งดังกล่าว ทั้งนี้ระหว่างทำแผนฯ นายปรีชาได้กราบขอขมาญาติฝ่ายภรรยา และสวมกอดบุตรสาวทั้ง 2 คนที่จะได้ใกล้ชิดเป็นครั้งสุดท้าย โดยผู้ต้องหามีน้ำตาซึมเล็กน้อย อย่างไรก็ตามฝ่ายญาติพี่น้องภรรยาต่างรู้สึกสงสารนายปรีชา และให้อภัยในการกระทำดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมานายปรีชามีน้ำใจช่วยเหลือญาติฝ่ายภรรยามาโดยตลอด ซึ่งฝ่ายญาติยืนยันจะช่วยดูแลบุตรสาวของนายปรีชาให้เอง จากนั้นกำลังตำรวจได้คุมตัวนายปรีชาไปยังบ่อขยะสถานที่นำศพไปเผาเพื่อชี้จุด ตามขั้นตอนกฎหมาย โดยผู้ต้องหาได้กราบขอขมาภรรยาตัวเองพร้อมบอกกล่าวให้วิญญาณภรรยาช่วยกลับไป บ้านเพื่อคุ้มครองดูแลลูกสาวทั้งสองตามความเชื่อด้วย

"อยากฝากถึงคนที่เป็นสามีภรรยากัน จะทำอะไรขอให้คิดมาก ๆ ก่อนที่จะลงมือทำอะไรลงไป มิเช่นนั้นอาจจะเหมือนกับผมที่กลายเป็นผู้ต้องหา ซึ่งผมรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่กระทำลงไปด้วยความโมโห ถ้าย้อนกลับไปได้จะไม่ทำเรื่องแบบนี้แน่นอน" นายปรีชา กล่าว